ซ้อนขั้นเทพ :: บทที่4 Makeup!!!

กลับมาอีกครั้งหลังจากไปหาแรงบันดาลใจในการเขียนแถวภาคเหนือมา อีสาน ชายแดนกรุงเทพ และอื่นๆ อีกมากมาย คือกลับมาดูสิ่งที่เขียนค้างคาไว้แล้วถึงกับผงะ!!! แบบว่าผ่านไปครึ่งปีเลยทีเดียวววว (ผีขี้เกียจสิงร่างมานาน)

อยากจะเขียนถึงเรื่องการแต่งหน้า กับความสวยความงามบนใบหน้าของสาวๆขาซ้อนกันบ้าง
แน่นอน ตัวเอง ก็ชอบแต่งหน้า (จริงๆ คือไม่อยากให้คนอื่นเห็นใบหน้าที่แท้จริง) หาไรมาโบกทับไว้จะดีกว่า (อับอายๆ) >,,<

สิ่งสำคัญสำหรับทุกวันก็คือ "ครีมกันแดด" สังเกตุดูเครื่องแต่งกายแล้ว
คิดว่าสิ่งที่น่าจะโดนแดดมากที่สุดก็น่าจะเป็น ใบหน้านี่แหละ => <= ช่องว่างให้แสงเข้าได้ง่ายที่สุด
กันแดดใบหน้า สำคัญที่สุด ห้ามลืมเด็ดขาด (ไม่งั้นอาจหน้าไหม้กันได้) อีกอย่างคือลำคอ ไม่ใช่ว่าทาแต่หน้า คอนี่ดำมาเลย หนักไปเปลี่ยนร่างเอาจะง่ายกว่า

นกแลถือเป็นคนโชคดีที่ทนแดน ไม่คล้ำง่ายเวลาตากแดด อาจมีแดง มีลอกบ้าง แต่สักพักก็ลอกคราบกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ไม่ใช่ทุกคนจะโชคเข้าข้างไปซะหมด กันไว้ดีกว่าแก้คะ

1. กันแดดสำหรับผิวหน้าที่ใช้ บีโอเร spf 50 (ไม่ไดค่าโฆษณาแต่อย่างใด) นกแลใช้แล้วมันไม่เหนียวเหนอะ และก็รู้สึกเหมือนไม่ได้ทาอะไรดี เลยชอบตัวนี้ จริงๆแล้วใช้ตัวนี้ทุกวัน เป็นประจำเลยดีกว่า

สำหรับเครื่องสำอางค์อื่นๆ รองพื้น แป้ง ปัดแก้ม อายไลเนอร์ เขียนคิ้ว และ ลิป ช้านทำทั้งหมดนี่จริงๆจะ ไม่ได้เว่อร์ ก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าเค้าเป็นคนชอบแต่งหน้าาาา

..........ว่ากันตามสเต็ปเลยละกัน........

2. รองพื้นนน!!!

ใช้เมเบอร์ลีน เจล แต่ตอนนี้มันเลิกขายไปแล้ว กำลังมองหาตัวใหม่เน้นเพคเกจพกง่าย สะดวก ไม่ตกแตก ขอเป็นเนื้อเจล ไม่เหนียวเหนอะ สีตรงกะเนื้อเรา พอ ตอนนี้ก็เอาเทสเตอร์ของแถมเล็กจุ๋มจิ๋ม มาทาถูไปพลางๆ ก่อน anessa BB shiseido

3. แป้ง!!!

อันเนื่องจากลงรองพื้นแล้ว เลยใช้แค่แป้งฝุ่นอัดแข็งธรรมดา ไม่ต้องผสมรองพื้นอีก เดี๋ยวหน้าจะหนัก คออาจจะหัก เพราะรับน้ำหนักหน้าไม่ไหว นกแลใช้แป้งฝุ่นอัดแข็ง za พกตลับไปด้วยเพราะ ตลับมันมีกระจกอะ

4. ปัดแก้ม!!!

สีตามชอบ เราชอบปัดแก้มแบบฝุ่น

5. เขียนคิ้ว!!!

แท่งเดียวจบ มาสคาร่าเปลี่ยนสีคิ้วของ kate

6. อายไลเนอร์!!!

อันนี้บางครา จะไม่เขียน แบบเนือย ขี้เกียจ หรือบางทีรู้สึกวันนี้ตาโต??? (คิดเอาเองเงียบๆคนเดียว) ก็จะไม่เขียน แต่วันไหนอยากถ่ายรูปแล้วรู้สึกว่าเป็นผู้หญิงมากกว่าทุกวัน ก็เขียน โดยใช้ไลเนอร์แท่งโปรดที่ใช้อยู่ทุกวัน kate เจลไลเนอร์ สีดำ เข้ม เขียนง่าย ติดทน และล้างไม่ยาก

7. ปาก!!!

ใช้ลิปมัน มีสีนิดหน่อย หรือลิปแถมแบบแท่งที่เห็นด้วนบน

ยัดทุกสิ่งลงกระเป๋าใบน้อย จบ!!!

รวมๆแล้ว เรียกว่าเยอะ สำหรับผู้หญิงที่ซ้อนรถเลยทีเดียว ทำไงได้เราเป็นผู้หญิงนี่เนาะ รักสวยรักงามเป็นธรรมดาคะ ใจจริงอยากจะใส่คอนแทคบิ๊กอาย และเพิ่มขนตาปลอมอีกสักสองชั้น แต่กลัวเสียดายของ เพราะสิ่งเหล่านั้นคงโดนลมตีหายไปซะก่อน (เสียดายแย่) เอาเป็นว่าพยายามสวยเท่าที่จะเป็นไปได้ละกัน

ปอลิง...เครื่องสำอางค์ที่พูดมาข้างต้น นกแลไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใดนะคะ ถ้าผู้ใดมีสิ่งที่ตนเองใช้อยู่แล้วและไม่แพ้ ใช้ต่อเถอะคะ การลองสิ่งใหม่ บางทีมันก็ไม่ดีเสมอไป ;) 

...คราวหน้ามาติดตาม ว่านกแลพอกเยอะขนาดนี้ เวลาไป ตจว. ต้องขนอะไรไปล้าง คสอ. พวกนี้ออกจากหนังหน่้ากันบ้าง 

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

...นกแล...

ซ้อนขั้นเทพ :: บทที่3 ท่านั่ง!!!

ซ้อนขั้นเทพ :: บทที่3 ท่านั่ง!!!

คนธรรมดาอย่างเราเนี่ย มองดู มอไซด์วิ่งไปวิ่งมา บางทีไปถึงโน้นนนน เชียงใหม่ เชียงราย
บางรายบ้าหนัก กรุงเทพ-เมืองจีน ตายๆ ตรูดด้านกันไปข้างนึง

คนขี่มอเตอร์ไซด์ อย่าไปสนใจเค้าเลย เค้าชอบ เค้ารัก เค้าสนุก กับการได้มองสิ่งรอบข้างวิ่งผ่าน
ลมปะทะหน้า หวืดๆๆ เสียงลมผ่านหมวก แค่นี้เค้าก็คงมีความสุขแล้ว (ดูจิตๆเนาะ 555)

คนซ้อน ทุกสิ่งทุกอย่าง จะเป็นเหมือนกัน ถ้าเราชอบ แต่สำคัญคือเราไม่ได้เป็นคนคุมรถ
มันจะซ้าย มันจะขวา มันจะเบรค เพราะหมาตัดหน้า นกวิ่งผ่าน ใครจะรู้ นอกจากคนขับขี่
ดูทางไปด้วยคะ จู่ๆ มีรถตัดหน้า เบรคกระทันหัน สิ่งสำคัญ คือเราต้องจับ รถสมัยนี้มีที่จับสำหรับเบาะหลัง ถ้าไม่มี กรุณารบเร้าให้เจ้าของรถไปติดค่ะ (ไม่มีตรูจะจับตรงไหน)  ให้ซ้อนแบบโอบเอวเหมือนละคร ในหนังอะเหรอ ฝันเถอะคะ เป็นไปไม่ได้ ยกเว้นรถคันนี้จะขับคงที่ เบรคนุ่ม ไม่สะดุด ไม่มีหมาตัดหน้า ไม่แซงซ้ายแซงขวา ไม่ตกหลุม ยากคะ มันไม่เหมือนอย่างที่เราจินตนาการหรอก ทำได้อย่างมากก็จอดถ่ายรูปเท่านั้นแหละ

*ยกตัวอย่าง กรณี ไร้ที่จับด้านหลังสำหรับคนซ้อน* 
รถเบรคหัวทิ่ม แน่นอนว่าเราจะพุ่งไปข้างหน้าคะ และร่างเราก็จะไหลรวมกะคนขับ - -* เป็นเหตุทำให้เกิดการเสียหลัก คนขับขี่อาจจะตกใจ จากเบรคเบาๆ กลายเป็นจอดรถเลยไรงี้ ถามว่า เราเป็นอะไรไม๊ โง้นงี้ (เหมือนตูทำผิดอะไรสักอย่าง) สุดท้าย ถ้าไร้ที่จับสำหรับคนซ้อน เราจะต้องเท้ามือของเราที่ถังน้ำมันด้านหน้าของคนขับคะ แลดูลำบาก และเป็นภาพที่ดูไม่ดีเอาซะเลย (ผู้หญิงอาร๊ายยยยย) บัดสี!!!

เมื่อรบเร้าจนได้มือจับสำหรับคนซ้อนสำเร็จแล้ว
จากนั้น เท้าเหยียบที่พักเท้า มือจับ ตามองถนน ไม่ใช่ว่าจับแน่นตลอดเวลานะคะ
ปวดแขนแน่ (แรกๆ ตัวเองเป็น ปวดแขนร้าวถึงคอ) จับไว้ ถ้าเห็นว่าจำเป็นต้องเบรค เราค่อยอาศัยมือจับพยุงตัว ไม่ให้ไหลรวมกะคนขับคะ เมื่อยแขนนนะคะ บอกไว้ก่อน แต่ดีกว่าเราไปทำให้รถเสียหลัก มือจับ ตามองถนนคะ ห้ามหลับเด็ดขาด!!!

อีกอย่าง คราวที่แล้วพูดคร่าวๆ ถึงอุปกรณ์ไป
ลงถึง หมวกกันน็อค (Helmet) หน่อยละกันคะ หมวกกันน็อค สำหรับรถบิ๊กไบท์
ลักษณะของหมวก - ควรเป็นหมวกปิดหน้า ปิดหน้าในที่นี้หมายถึง มีที่ปิดตรงปากอะคะ นึกออกไม๊?
ถ้าหมวกที่ไม่มีที่ปิดตรงปาก ถ้าเราล้ม แล้วคางเราไปฟาดไรสักอย่าง  หัวไม่เป็นไรนะคะ แต่กรามหัก อะไรทำนองนี้ ปิดหน้าจะดีกว่า
ฝาปิดหมวก (เรียกแล้วน่าเกลียดไงชอบกล) จริงๆ เค้าเรียกกันว่า ชิลด์หน้าหมวกกันน็อค (shield) 
เป็นส่วนที่เอาไว้เรามองเห็นไม่ทึบ สามารถเปิดปิดได้ จะมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งกันแดด เป็นสีทึบๆหน่อย สบายเวลากลางวัน ไม่แสบตา เรียกว่าปิดฝา แล้วสบายตาเลยไม่ต้องใส่แว่นกันแดด
แต่ถ้าเป็นแบบใส แดดเปรี้ยงๆ ก็เหมือนรถยนต์ที่ไม่ได้ติดฟิล์ม ทำนองนั้น แสบตา จำเป็นต้องใส่แว่นกันแดดเวลาอยู่กลางแจ้ง แต่ถ้าค่ำแล้ว ทั้งสองแบบก็สลับกันสิ้นเชิงนะจ๊ะ ไอกันแดดก็มืดเกิ๊นนน มองอะไรแทบไม่เห็น ส่วนใส ก็จะทำให้เรามองทางชัดขึ้น อันนี้ก็แล้วแต่สะดวกละกัน
ส่วนเรา 2 คน ใส่หมวกเบอร์เดียวกัน ไปไหนไกลๆ ตอนกลางวัน คนซ้อนใส่อันใส (สวมแว่นตากันแดดเอาเองนะคะ) ส่วนคนขับขี่ ใส่อันที่เป็นชิลด์ดำ ส่วนตอนค่ำ เราก็สลับหมวกกันคะ :)
ไม่ต้องห่วงเราเราปิดชิลด์แล้วจะร้อน หายใจไม่ออกนะคะ การปิดชิลด์ทำให้เราไม่โดนลมปะทะหน้าเต็ม
มันไม่จำเป็นว่าเราต้องปิดจนสนิท เปิดเป็นช่องแค่ครึ่งเซ็นก็ได้ แล้วแต่เราคะ แต่ยังไงก็ควรปิด
ไม่ว่าจะปิดมากปิดน้อย
เพราะอุปสรรคที่ต้องเจอ คือแมลง และเศษหิน ไม่งั้นแมลงเข้าตา จมูก ปาก จะหาว่ามิเตือน :P

ภาพตัวอย่าง :: หมวกแบบปิดหน้า
from::: http://instagram.com/jarutorn/

*ปอลิง ติดตามตอนต่อไปนะคะ :)

ซ้อนขั้นเทพ :: บทที่2 พกอะไรไปบ้าง?

ซ้อนขั้นเทพ :: บทที่2 พกอะไรไปบ้าง?

คราวนี้ขอพูดถึงสิ่งที่เราจำเป็นต้องสวมใส่ขณะซ้อนรถมอเตอร์ไซด์กันก่อน
ดูง่ายๆ คือ คนขับขี่สวมอย่างไร เราก็สวมแบบนั่นแล ยกตัวอย่างง่ายๆ

Made by : Jaru

1. หมวกกันน็อค (อย่าลืมรัดสายรัดหมวกด้วย)
2. เสื้อที่มีการ์ด การ์ดหลัง หัวไหล่ ข้อศอก (ควรจะมี คิดไว้ว่าถ้าเราล้ม)
3. การ์ดเข่า หน้าเข้ง (ควรมี เพื่อความปลอดภัย)
4. รองเท้า ควรจะเป็นรองเท้าสำหรับขี่มอเตอร์ไซด์โดยเฉพาะ หน้าตามันก็เป็นบูทๆ แต่เดี๋ยวนี้ก็มีที่เป็นแฟชั่นมากขึ้น
5. ถุงมือ คิดไว้ถ้าเราล้ม (อันนี้ทำให้เราหยิบจับอะไรไม่สะดวกเลยยย แต่จำเป็นต้องใส่นะคะ)

ไอที่พูดมาด้านบนเนี่ยมันใส่แล้วไม่สวยหรอก มันเป็นของที่ปกป้องตัวเรา
แต่ถ้าไม่อยากให้สิ่งสวยๆหายไป "ใส่ซะ" อีกอย่าง มันค่อนข้างแพง แต่คิดว่ามันคุ้มค่า ที่จะปกป้องตัวเรา
ยอมควักสตางค์จ่ายเถอะ ดีกว่าไม่มีที่ให้สวมเนาะ

(สัม)ภาระ
เสื้อผ้าที่เตรียมไป เนื้อที่เก็บเสื้อผ้าอาจมีไม่มาก เพราะส่วนที่สวมอยู่บนร่างกายเราก็มากพออยู่แล้ว
ถ้าต้องไปค้างคืน ก็ควรจะเป็นเสื้อที่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่เท่านั้น ครีม โลชั่น ไดร์เป่าผม เซรั่ม เซรุ่ม อะไรเนี่ย ควรเป็นอะไรที่เล็กๆ ใช้แล้วทิ้งมันไปเลย จะดีกว่า ยกตัวอย่างแบบที่ตนเองใช้ คือ พวกเทสเตอร์ พวกครีมโลชั่น โฟมล้างหน้า เซรั่ม เป็นซองๆหมดจ้า ขนาดทดลอง แบบใช้แล้วทิ้งไปเลย จะได้ไม่ต้องมานั่งเก็บ เสียดาย ใช้ไม่ไม่หมด พกไปพกกลับ หกเลาะเทอะอีกต่างหาก นั่นแหละ ภาระ ของจริงเลยทีนี้

ภาพ: http://www.stormclub.com/webboard/topic.php?id=00015819&x=11&y=3&p=1

ปอลิง. ให้กำลังใจกันเยอะๆนะฮ๊าฟ จะมาเขียนภาคต่อ
(ถามคำถามได้ฮ่ะ แล้วจะหาคำตอบมาให้ฮ๊าฟฟฟ)

ซ้อนขั้นเทพ :: บทที่1 เตรียมตัวยังไงเมื่อต้องซ้อนบิ๊กไบท์

ซ้อนขั้นเทพ บทที่1 เตรียมตัวยังไงเมื่อต้องซ้อนบิ๊กไบท์

Made by Jaru

ทำยังไงเมื่อต้องไปกับบิ๊กไบท์ เมื่อคุณชาย คลั่งมอเตอร์ไซด์ สายพันธุ์ใหญ่ แบบไม่ต้องชน แค่ล้มทับตู ตูก็ตายแล้ว
แต่ ญ ร่างเล็กบอบบางแบบเราต้องไปด้วย เตรียมตัวให้พร้อม เตรียมยังไง ทำไมต้องเตรียม?

ผู้หญิง กับ ความอยากสวย เป็นของคู่กันอยู่แล้ว อนุโลมให้คนที่อยากสวยทุกคนไม่ว่าจะเพศไหนก็ตาม
การซ้อนมอเตอร์ไซด์คันใหญ่ แบบบิดคันเร่งแล้ว นั่งอยู่อาจจหงายหลังได้ คงไม่เหมาะกับการแต่งกายสวยงามแฟชั่นจ๋า แบบการนั่งรถเก๋งชิวๆ ได้
สิ่งที่ไม่คู่ควร กับ บิ๊กไบท์
- กระโปรง : จริงๆไม่เหมาะกับรถมอเตอร์ไซด์ทุกชนิด ไม่ว่าจะ คันเล็ก คันใหญ่ หรือแม้แต่จักรยาน ก็ตาม
- กางเกงขาสั้น (อันนี้สก๊อยอาจจะฮิต ถ้าเราไม่ใช่ก็อย่าใช้มันเลย)
- รองเท้าเตะ (อันนี้สก๊อยอาจจะฮิต ถ้าเราไม่ใช่ก็อย่าใช้มันเลย)

ตอนนึ้นึกออกเท่านี้ สิ่งใดที่ใส่อยู่ แล้วคิดว่ามันเยอะ มันยุ่งยาก ใส่กับไม่ใส่มีค่าเท่ากันไม่ได้ปกป้องร่างกาย ก็ถอดมันออกเถิด
ตัวอย่างเช่น ต่างหูระย้า ประกายวิบวับ เราไม่ได้ไปงานโรงแรม ถ้าทำใจไม่ใส่ไม่ได้ ใส่แบบกระชับ ไม่เกะกะ จะดีกว่า
การซ้อนมอเตอร์ไซด์คันใหญ่ รถจะมีอัตราเร่งสูง เวลาบิดเร่ง หรือแซง จะเกิดการโต้ลมที่แรง (แรงมาก) หน้าอาจจะเหี่ยวเลยทีเดียว
ตัวอย่างง่ายๆ คือ แค่เรานั่งรถเมล์ ค่อนข้างเร็ว แล้วมีคนนอนหลับ อ้าปาก น้ำลอยย้อย อยู่ด้านหน้า .... ลมพัดแรง จนยาวยืดมาถึงเรา
เหม็นทั่วหน้าจอเลยทีเดียว

Make-up No.1 ::: Morning to Midnight

Make-up No.1
Morning to Midnight

Cosmetic

1. Foundation :: Maybelline Aqua gel foundation
2. Foundataion :: Magique#18
3. Powder :: Two way loose powder#77
4. Blush on :: Magique#6
5. Eye brown :: Canmake powder eyebrow
6. Eye brown :: Covermark eyebrow pencil
7. Eye shadow :: Magique Pallet
8. Eye Liner :: Lomeou Eyeliner pen
9. Mascara :: Maybelline hyper curl
10. Lipstick :: Giffarine Crystalline (Tester pallet)
11. Lip Balm :: Berli Pops

 

โบกรองพื้น maybelline ให้ทั่วหน้า ตามด้วย
เชดสีที่เข้มกว่าหน้านิดนึงเพื่อตีกรอบหน้าและแนวสันจมูก

ลงแป้งฝุ่นด้วยแปรงเก็บหมด
เขียนคิ้ว ด้วยพาเลทเขียนคิ้วแบบฝุ่น (เขียนไปเรื่อยตามที่คิ้วมี :P)

ใช้อายสีอ่อนสุด ระบายใต้โหนกคิ้ว
ตามด้วย อายสีชมพูอ่อนระบายทั่วทั้งเปลือกตา

อายสีน้ำตาลอมม่วงที่ชั้นพับตาเบลนให้เข้ากับสีแรก
และสีดำชิดที่ขอบตาด้านบน เบลนสีเข้ากับสีด้านบน

ตบด้วย บลัชออน ชมพูอมส้ม ทาลิปมันของ Berli Pops จบ!!!
อบอวนไปด้วยดอกไม้สีโอรส เข้ากับวันสบายๆ
(เว่อร์ไปไม๊?)

....Finish Day Part >>>> Start Night Party....

 

ละเลงคิ้วให้คมและชัดยิ่งขึ้นด้วยดินสอเขียนคิ้วสีน้ำตาลเข้ม
ใช้อายสีขาวมุกทาทั่วเปลือกตาเพื่อทำให้สีเดิมจางลง

ลงอายสีใหม่เลือกใช้สีชมพูอมม่วงแบบวิ้งๆ
และสีที่สอง สีน้ำเงินวิ้งๆ เบลนสีที่สองเข้าหากัน

เพิ่มความคมชัดโดยใช้สีน้ำเงินเข้มเบลนสีตาแบบแนวตั้ง

 

เขียนอายไลเนอร์ เลือกใช้แบบดินสอ อีกด้านจะเป็นฟองน้ำ
เขียนเส็ดใช้ฟองน้ำถูๆ ให้สีดำฟุ้งๆ นิดหน่อย

 

ดัดขนตา ปัดมาสคาร่า
ทาลิปสีส้มออกทองๆ

สำเร็จ ไปซิ่งได้แล้วจ๊าาาา!!!

**การเขียนในครั้งนี้ทำเพื่อของรางวัลเท่านั้น >,,<**

2Go: เช้าวันสุดท้ายที่ Beijing

นานจัดๆ อัพรูปละกัน ลืมหมดแล้วไปไหนมาบ้าง

จำได้แต่หิมะ+ฝนตก หนาวชิบ.... :S

ผ่านไปครึ่งปีเขียนจบซักทีทริปปักกิ่ง >''<

2Go: เช้าวันสามที่ Beijing

เริ่มต้นเช้าวันใหม่ กับภาพสลดหดหู่ที่ห้องพัก ยามเช้า

บรึ๋ยๆๆ อย่างกะช่อง freeze

วันนี้ตื่นเช้ากว่าปกติมาก (ถ้าเทียบกะการใช้ชีวิตปกติที่บ้านเรา)

ตีห้าครึ่ง กับเสียงโทรศัพท์ morning call

T^T

อาบน้ำแต่งตัวกินข้าว ขึ้นรถ

โฮกกกกกกก เหนื่อยคอด

ระหว่างทาง....วันนี้จัดเต็ม

เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย

มีเท่าไหร่ ใส่มันให้หมด

เสื้อ 4 กางเกง 3

หมวก 2 ถุงมือ 2 ถุงเท้า 2

พอได้อยู่

ที่แรกที่เดินทางไป คือ โรงงานหยก

ถอย พี่เซี้ย มาไว้บ้านตัวนึง

(หาที่เมืองไทยค่อนข้างยาก)

พี่คนที่ร่วมทริปไป เค้าปลอบใจว่า

อย่างน้อย หยก ก็เป็นของจีน ถึงจะเป็นของปลอม

ก็เป็นของปลอมที่บ้านของมันแหละว่ะ

= =!

หลังจากได้คนละหยก สองหยก

หิมะยังตกไม่หยุดหย่อน ><

เค้าว่ารถติดมากกก ทางไปกำแพงเมืองจีน

จริงๆ สถานที่ถัดไป ทัวร์ต้องพาเราไปกำแพงเมืองจีน

แต่ไกด์เปลี่ยนแผน เพราะรถติดมาก

เราจึงไป snow world กันก่อน

ฮิ๊ ฮิ๊ววววววว

ขำรูป^

คุณนายมากๆ

ถ่ายด้านหน้า snow world

เล่นสกีกะเค้าด้วย ... ตอนเล่นไม่สนใจถ่ายรูปละ

เล่นไปสัก ห้า หก รอบได้

สนุกดี รีบๆเล่น กลัวเวลาหมด ให้เวลาเล่นแค่ ชม. เดียวเอง

^ ^

แอบดีใจไม่ล้มเลยยย

หนาวแต่เหงื่อแตกเลย ขึ้นไปรู้สึกว่า เกะกะมาก

หมวกผ้าพันคอ เยอะไปหมด

ร้อนก็ร้อน

อิอิ

แต่พอเล่นสกีจนหมดเวลา...คืนอุปกรณ์และรองเท้า

ความหนาวก็กลับมาเยือน

:S

บรึ๋ยยยยย

กินข้าวที่ร้านอาหาร (ร้านนี้เหมือนมีแต่ทัวร์มาลง)

รถทัวร์เยอะมากกกกก

เดินเข้าไป ลักษณะเหมือนโต๊ะจีน

อาหารเรียงเต็มโต๊ะกลม จนไม่มีที่จะวางงง

เค้านึงแก้ปัญหา โดยการวางซ้อนกันบนจานอื่นๆ ซะเลย

เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมา เล่นระดับการเสิร์ฟอาหาร

หลังจากกินข้าวก็ปรับสภาพอากาศ โดยการกินไอติม

เรื่องจริง ที่คิดขึ้นเอง

กินไอติมที่แข็งมากๆๆๆๆ ไอติมถ้วยนี่แคะจนไม่หักเลย

กินไอติม แล้วร่างกายจะรู้สึกชินชากับอากาศหนาว

(แค่แป็บเดียวเท่านั้นแหละ)

แล้วก็กลับไปหนาวเหมือนเดิม -*-

แล้วก็ถึงเวลา ... นอน (บนรถ)

ขณะเดินทางไป กำแพงเมืองจีน

หุหุ ฟังประวัติสนุกมาก ราวกับฝันไป และเราก็ตื่นนน เพราะเสียง

เสียงไกด์สาว : ถึงเลี้ยวค่า นี่คือทางขึ้นกำแพงเมืองจีนนะคะ

T^T คัยเปิดช่อง freeze

หนาว ลมแรง เฮือกกก ไม่อยากเดินไปไหนเลย

(เสียเงินมาตั้งไกล ไปมันให้หมด เอาว่ะ)

ถึงป้อมแรกคัยอยากจะแวะจิบกาแฟอุ่นๆ ที่นี่เค้าก็มีไว้(ขาย)รับรอง

ไอเราก็คิด(เอาเองคนเดียว)ว่า มันต้องเป็นบันไดขึ้นไปเรื่อยๆ

ไม่ใช่หละค่ะ เป็นทางลาดๆ ปีนกันขึ้นไป ขาลงจะกลิ้งลงก็ไม่ว่ากันค่า

พอละ ป้อม2 พอ

ข้ออ้างคือ พื้นมันลื่น คงจะกลิ้งขาลง

แต่ความจริงคือ กุหมดแรง จัด snow world ซะเต็ม = =

ชมวิวเรียบร้อย อย่ารอช้า .... ลงเลยละกัน ฮ่าๆๆ

ภารกิจถัดไปตะลุย โอท็อปจีน

บัวหิมะ

มีคนจีนมายืนพูดไทยจ๋อยๆๆๆ ให้เราฟังอีกละ

มีการโชว์สรรพคุณทางยา ด้วยพวกโดนไฟลวก

โดยการเผาโซ่ แล้วจับโชว์

อ๊ากกกก ร้อนอ่ะ ซาดิสมาก คนโชว์ (คนพูดให้เราฟังนั่นแหละ)

แล้วก็โปะ บัวหิมะเข้าที่ฝ่ามือ เพียงเท่านี้ รอยแดงก็จะค่อยๆจางลง >"<

นี่ต้องลงทุนกันถึง ลวกไฟ โชว์เลยรึเนี่ย

ญาติคนโน้น พ่อคนนั้น แม่คนนี้ ฝากซื้้อกันให้งงงวย

จัดไปซะหลายสิบโหล

แต่ก้อจัดมาแค่ 1 กระปุก พอ

ระหว่างรอการเจรจา ทางธุรกิจ

เราก็ได้ทำการปรับสภาพร่างกายให้ชินกับสภาพอากาศอีกสักรอบ

ด้วยไอศครีมรสข้าวโพด และ กล้วย

อร่อยใช้ได้เลยทีเดียว

....

ถึงเวลาอาหารเย็นที่ภัตตาคารสุกี้ปักกิ่ง

อร่อยเหาะ มากๆ มื้อนี้

บุฟเฟต์ เนื้อแพะ เนื้อวัว เนื้อหมู

ผักก็อร่อย ปุ๋ยเค้าดี ฮ่าๆๆๆ

หมดพลัง สำหรับวันนี้ ง่วงคอดดด

แต่ยังไม่จบ ทัวร์จับโยน ที่ ถนนคนเดินหวังฟู่จิง

ถนนคนเดินจริงเหรอว่ะ ถนนคน(สามร้อยคนเรียงหน้ากระดาน)เดิน มากกว่า

คณะทัวร์ไปหยุดอยู่ตรงนี้เกือบทุกคน

ของกินนนนนน .... ได้ข่าวว่าเพิ่งจะเต็มท้องตะกี้

ร้านเยอะมากกกก มีแต่ของแปลก ><

แหล่กไม่ล่ายเลยทีเดียว

ม้าน้ำย่าง _ _!!

(อย่างกะจิ้งจกตากแห้ง)

อีกเยอะ เด๋วจะรับทานอาหารกันไม่ลง

แต่สิ่งนี้อร่อยคะ ใครไปแนะนำให้ไปลองชิม

Beijing old yogurt

หน้าตาไม่น่ากิน แต่ชิมแล้วอร่อยติดใจเลย

มีทั้งแบบเย็นและแบบอุ่น

คืนขวด 5 หยวน , ไม่คืนขวด 10 หยวน

ก้อกินแบบไม่คืนขวดไปอะค่ะ

ใจจริงไม่ได้อยากได้ขวดหรอกค่า เค้าไม่บอกว่ามีแบบไม่คืนขวดด้วย

นึกว่าบังคับซื้อ แต่พี่ที่ร่วมทริป บอกว่าไม่ต้องเอาขวดก็ได้เค้ากินมาเหมือนกัน T T

ก็เลยคิดซะว่าเอากลับเป็นของตกแต่งบ้านก็ได้

และก็เอากลับไปล้างตาก ตอนกลับไปโรงแรม

แล้วก็ลืมไว้ในห้องน้ำที่โรงแรมนั่นแหละค่าาาาา

(ฉลาดหลายยย _ _")

(Credit Photo : P'ฐ)

** XOXO

omo